โปรแกรมบัญชี Express :
รองรับระบบปฏิบัติการ (Operating System Supported) : Windows XP, Windows 2000, Windows 2003,
Windows 2008, Windows 7, Windows 8 และ Windows 10 ทั้งแบบ 32bit (x86) และ 64bit (x64)
โปรแกรมบัญชี Express ประกอบไปด้วยระบบงานหลัก ๆ 12 ระบบ ดังต่อไปนี้
ระบบบัญชีแยกประเภท
ข้อมูลส่วนใหญ่จะถูกส่งมาจาก ระบบซื้อ, ระบบขาย, การเงิน และระบบอื่น ๆ
1. จัดเตรียมผังบัญชีตัวอย่างไว้ให้
และสามารถ แก้ไข เพิ่มเติม ลบทิ้ง เพื่อให้ตรงกับระบบงานของบริษัทได้
2. สามารถสร้างงบการเงินได้ทุกรูปแบบ
เพื่อให้ตรงกับความต้องการของธุรกิจแต่ละประเภท อาทิเช่น
- ในงบเปรียบเทียบสามารถนำข้อมูลมาแสดงเปรียบเทียบได้สูงสุด
18 คอลัมน์
- ข้อมูลที่นำมาแสดงสามารถสร้างสูตรเพื่อคำนวณ
หรือดึงมาจากฟิลด์ข้อมูลที่กำหนดให้
- ในแต่ละคอลัมน์สามารถเลือกให้แสดงข้อมูลเฉพาะแผนกตามที่ต้องการ
- สามารถแสดงข้อมูลในรูปอัตรา %
โดยใช้ยอดรวมของข้อมูลเป็นฐานการคำนวณ
- ในงบเดียวกัน ในแต่ละบรรทัด
หรือแต่ละบัญชี สามารถดึงข้อมูลจากคนละฟิลด์มาแสดงได้
- สามารถกำหนดข้อความ(Wording)ที่จะแสดงในรายละเอียดหน้างบได้ตามต้องการ
3. มีระบบควบคุมเงินสดย่อย หรือเงินทดลองจ่าย
สามารถดูความเคลื่อนไหวของเงินสดได้ตลอดเวลา
4. รายงานสมุดเงินสดย่อย
สามารถกำหนดชื่อค่าใช้จ่ายที่แสดงในหัวรายงานของแต่ละคอลัมน์ได้เอง 4 ชื่อ
5. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบใบเบิกเงินสดย่อยและใบเบิกชดเชยเงินสดย่อย
ได้ตามความต้องการ
6. สามารถบันทึกค่าใช้จ่ายที่มีใบกำกับภาษีหลายใบในใบสำคัญจ่าย(Voucher)ใบเดียวกัน
7. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบใบสำคัญ (Voucher)
ได้ตามความต้องการ
8. สามารถพิมพ์หนังสือรับรองการหักภาษี ณ
ที่จ่าย ทั้งแบบภงด.3 และภงด.53 ตรงตามแบบกรมสรรพากร
9. สามารถลำดับ (Running) เลขที่ใบสำคัญในสมุดรายวันได้ 5 แบบ ได้แก่ 0=ป้อนเลขที่เอง, 1=YMMDDxx, 2=YMMxxxx, 3=YYMMxxxx, 4=YYMMDDxx (Y=ปี, M=เดือน, D=วันที่เอกสาร,
x=Running Number)
10. สามารถกำหนดผังบัญชีให้แยกตามแผนกได้ไม่จำกัด
(Cost Center)
11. มีระบบล็อคงวดบัญชี
ทำให้ป้องกันการเพิ่มหรือแก้ไขข้อมูลในงวดที่ปิดบัญชีไปแล้ว
12.
สามารถกำหนดวันเริ่มต้นรอบระยะเวลาบัญชีของบริษัท ตามวันเดือนที่แจ้งกับสรรพากร
13. สามารถป้อนข้อมูลของปีถัดไปได้ไม่จำกัดโดยไม่ต้องรอการปิดบัญชีสิ้นปี
ทำให้การทำงานต่อเนื่องไม่ล่าช้าและเมื่อทำการปิดสิ้นปี ระบบบัญชี Express
ก็จะนำข้อมูลเข้าไปในงวดที่ถูกต้องให้โดยอัตโนมัติ
14. สามารถเก็บข้อมูลรายวันได้สูงสุด 24 งวด
และงวดที่ 24 ไม่จำกัดเวลา ขึ้นอยู่กับผู้ใช้กำหนด
15. สามารถดึงบัญชีต้นแบบ (Template)
มาลงรายการรายวัน ทำให้รวดเร็ว
และช่วยบุคคลากรที่มีความรู้ทางด้านบัญชีน้อย สามารถบันทึกบัญชีได้ถูกต้อง
16. สามารถกำหนดยอดประมาณการ (Budget)
ของแต่ละบัญชี ได้ 12 เดือน เพื่อแสดงในงบประมาณการ
17. สามารถบันทึกรายการด้านเดบิทและเครดิตได้ไม่จำกัดจำนวนรายการ
(Compound
Entry)
18. โปรแกรมบัญชี Express
จะทำการตรวจสอบยอดเดบิทและเครดิตให้สมดุลย์ ก่อนบันทึก
19.
สามารถเลือกวิธีบันทึกบัญชีสินค้าได้ทั้งแบบ Periodic และ Perpetual
20. สามารถกำหนดสมุดรายวันได้ไม่จำกัดจำนวน
21. สามารถปรับเปลี่ยนเลขที่บัญชีได้ตลอดเวลา
22.
สามารถค้นหาข้อมูลตามเลขที่บัญชีหรือชื่อบัญชี และมี Look
up ในกรณีที่จำไม่ได้
23. ในใบสำคัญ(Voucher)แต่ละใบ สามารถบันทึกหมายเหตุเพิ่มเติมได้ 5 บรรทัดๆละ 50 ตัวอักษร
24.
สามารถบันทึกเอกสารอ้างอิงที่ทำการปรับปรุงตามหลักบัญชีตามประกาศกรมสรรพากรฉบับที่
63
25. เมื่อมีการลงบัญชีภาษีซื้อหรือภาษีขาย
โปรแกรมจะนำไปบันทึกในแฟ้มภาษีซื้อหรือภาษีขายให้ทันที
26. เมื่อมีการลงบัญชีภาษีเงินได้หัก ณ
ที่จ่าย โปรแกรมจะนำไปบันทึกในแฟ้มภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายให้ทันที
27.
เมื่อมีการลงบัญชีเช็ครับหรือเช็คจ่ายล่วงหน้า โปรแกรมจะนำไปบันทึกในทะเบียนเช็ค
ให้ทันที
28. สามารถพิมพ์งบทดลองได้ทั้งแบบเต็ม
(แสดงยอดยกมา,ยอดเคลื่อนไหว,ยอดคงเหลือ),
แบบย่อ (แสดงเฉพาะยอดเคลื่อนไหว), แบบแยก 3
เดือน, แบบแยก 12 เดือน และแบบเต็ม/ย่อแยกตามแผนก
ระบบสินทรัพย์ถาวร
1.
สามารเลือกวิธีการคิดค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ได้ 3 วิธี ได้แก่
- วิธีเส้นตรง (Straight-Line
Method)
- วิธีลดยอด (The Constant
Percentage of Declining Book-Value Method)
- กำหนดค่าเสื่อมราคาเอง
2. สามารถจัดแยกกลุ่มการบันทึกบัญชีทรัพย์สิน
ได้ตามต้องการ
3. การคิดค่าเสื่อมราคาสามารถเลือกได้ 2 แบบ
ได้แก่ คิดรายเดือน หรือคิดรายปี
4.
มีรายงานรายละเอียดค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาที่หักได้ตามพระราชกฤษฎีกาฯ
สามารถนำส่งได้ทันที
5. สามารถลงบัญชีค่าเสื่อมแยกตามแผนกได้
6. เมื่อเริ่มนำข้อมูลเข้าระบบ
สามารถเลือกได้ว่า จะให้ระบบคิดค่าเสื่อมทันที หรือ ยังไม่คิด
(ถ้ายังไม่คิดขณะบันทึก ระบบจะทำงานได้เร็วกว่า
เมื่อเรียบร้อยจึงไปสั่งคำนวณค่าเสื่อมราคาทั้งแฟ้ม)
7. สามารถปรับเปลี่ยนรหัสทรัพย์สินได้ตลอดเวลา
8. สามารถค้นหาข้อมูลตามรหัสสินทรัพย์หรือชื่อสินทรัพย์
และมี Look
up ในกรณีที่จำไม่ได้
ระบบควบคุมสินค้าคงคลัง
ข้อมูลส่วนใหญ่จะถูกส่งมาจากระบบซื้อและระบบขายสินค้า
1. สามารถกำหนดคลังสินค้าได้หลายคลัง
โดยไม่จำกัดจำนวน
2. สามารถเลือกวิธีการคิดต้นทุนได้ 2 แบบ
ได้แก่
- แบบต้นทุนถัวเฉลี่ย (Moving
Weighted Average)
- แบบเข้าก่อนออกก่อน (FIFO
= First-In-First-Out)
3. รองรับการขายสินค้าเป็นชุด (Component
set=สินค้าที่มีส่วนประกอบมากกว่า 1 ชิ้น)
เพียงแต่กำหนดว่าสินค้าชุดนั้นมีส่วนประกอบอะไรบ้าง เมื่อบันทึกการขาย ระบบบัญชี Express
จะตัดส่วนประกอบในสต๊อคให้เองอัตโนมัติ
4.
ในสินค้าชุดสามารถเลือกตัดส่วนประกอบและพิมพ์ส่วนประกอบในบิลได้
เพียงแต่กำหนดเป็นชุดพิเศษ
5.
สามารถเลือกได้ว่าต้องการแสดงราคาขายที่ตัวสินค้าชุด หรือที่ส่วนประกอบ
6. ในการซื้อสินค้าชุด โปรแกรมบัญชี Express
จะทำการแตกย่อยเป็นส่วนประกอบและเพิ่มในสต็อคให้ทันที
7.
การเพิ่มสินค้าชุดใหม่ที่มีส่วนประกอบคล้ายกับสินค้าชุดเดิม
สามารถก๊อปปี้สินค้าชุดเดิมมาแก้ไข-เพิ่มเติมได้ทันที
8. สินค้าชุด 1 ชุด มีส่วนประกอบได้ 999
รายการ
9. สามารถกำหนดหน่วยนับซื้อ, หน่วยนับขาย ต่างกับหน่วยนับหลักได้
(หน่วยนับที่เก็บไว้ในสต๊อคและเป็นหน่วยที่เล็กที่สุด)
แต่ต้องมีอัตราส่วนที่สัมพันธ์กับหน่วยนับหลัก และมีทศนิยมได้ถึง 4 ตำแหน่ง
10. สินค้าที่เก็บเป็นหน่วยย่อย
แต่สามารถพิมพ์รายงานแสดงหน่วยได้ 2 ระดับ เช่น ยอดคงเหลือ 5 ลัง 4 ซอง
11.
มีตารางกำหนดอัตราส่วนต่อหน่วยนับหลักไว้ล่วงหน้า เพื่อสะดวกในการเรียกใช้
และควบคุม
12.
ระบบสามารถนำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการซื้อหรือนำเข้า
มาเฉลี่ยเป็นต้นทุนสินค้าได้ เช่น ค่าขนส่ง, ค่าภาษีสรรพสามิต,
อากรขาเข้า ฯ
13. สอบถามยอดคงเหลือในสต๊อคได้ตลอดเวลา
ที่หน้าจอไหนก็ได้(กด Alt-F4)
ทำให้ลูกค้าได้คำตอบทันทีโดยไม่ต้องรอนาน
และไม่จำเป็นจะต้องออกจากงานที่เรากำลังทำอยู่
14.
สามารถเลือกได้ว่าต้องการให้ยอดสินค้าติดลบได้หรือไม่ ถ้าติดลบได้ (เปิดบิลไปก่อน)
เมื่อบันทึกรับสินค้าเข้า ระบบบัญชี Express จะกระทบยอดสินค้าและต้นทุนย้อนหลังให้เองโดยอัตโนมัติ
ไม่ว่าจะมีการเปิดบิลขายไปแล้วซักกี่ใบก็ตาม
15.
สามารถกำหนดได้ว่าต้องการให้บุคลากรท่านใดทำการตัดสินค้าและติดลบในสต็อคได้บ้าง
16. สามารถเก็บข้อมูลได้ทั้งสินค้าสำเร็จรูป, วัตถุดิบ, สินค้ากึ่งสำเร็จรูป, สินค้าประกอบ และสินค้าบริการ
17. สามารถกำหนดราคาขายของสินค้าได้ 5 ระดับ
และพิมพ์รายงาน Price List ได้
18. สามารถกำหนดราคาเสริม สำหรับจัดโปรโมชั่น
โดยกำหนดเงื่อนไข (เช่นซื้อ 10 ชิ้น ลด 2%) และกำหนดช่วงวันตามที่เราต้องการ (เช่น
ช็อค!ลดกระหน่ำ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 31 กรกฎมคม 2544 นี้เท่านั้น)
19.
สามารถบันทึกการเบิกหรือรับเข้าสต๊อคที่ไม่เกี่ยวกับการซื้อหรือขาย เช่น
เบิกวัตถุดิบไปผลิต, รับสินค้าเข้าจากการผลิตฯ
20.
สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบของเอกสารการเบิกหรือรับสินค้าเข้า ที่แตกต่างกันได้ถึง
3 รูปแบบ
21. มีระบบควบคุมการตรวจนับสินค้า
เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว และถูกต้อง
22. สามารถปรับเปลี่ยนรหัสสินค้าได้ตลอดเวลา
23. สามารถค้นหาข้อมูลตามรหัสสินค้า
หรือชื่อสินค้า และมี Look up ในกรณีที่จำรหัสไม่ได้
24. มีแฟ้มเก็บสินค้าที่มี Serial
No. หรือ Part No. (แยกต่างหาก
ไม่เชื่อมโยงกับระบบอื่นๆ)
25.
สามารถจัดแยกกลุ่มการคำนวณต้นทุนสินค้าว่ากลุ่มใดคำนวณแบบ FIFO
และกลุ่มใดคำนวณแบบถัวเฉลี่ยภายในบัญชีสินค้าชุดเดียวกัน
(สต๊อคเดียวกัน)
26. สามารถจัดแยกกลุ่มการบันทึกบัญชีสินค้า
และบัญชีวัตถุดิบ ได้ตามต้องการ
27. สามารถกำหนดจุดสั่งซื้อ (Re-order)
แยกตามเดือน เพื่อขายงานโครงการ หรือจัดโปรโมชั่นตามเทศกาล
28. สามารถกำหนดจุดสูงสุดของสินค้า (Maximum)
แยกตามเดือนหรืองวด ได้ตามต้องการ
29. เตรียมคอลัมน์ วันที่ สำรองไว้ 2
คอลัมน์ต่อ 1 สินค้า เผื่อรองรับในกรณีที่ต้องการเพิ่มเติม
30. เตรียมคอลัมน์ ข้อความ สำรองไว้ 4
คอลัมน์ต่อ 1 สินค้า เผื่อรองรับในกรณีที่ต้องการเพิ่มเติม
31. เตรียมคอลัมน์ จำนวน (ตัวเลข) สำรองไว้ 1
คอลัมน์ต่อ 1 สินค้า เผื่อรองรับในกรณีที่ต้องการเพิ่มเติม
32. สามารถควบคุมระบบสินค้าด้วยรหัสแท่ง (Barcode)
และเครื่องอ่านบาร์โค้ด
33.
รองรับสินค้าที่อยู่ในกลุ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)อัตราปกติ
และกลุ่มที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
34. สินค้าในแต่ละคลังสามารถแสดง ปริมาณ, ต้นทุน, มูลค่าสินค้า, ปริมาณค้างรับ,
ปริมาณค้างส่ง, ชั้นที่เก็บสินค้า และแผนก
ซึ่งทำให้ธุรกิจบางประเภทได้ข้อมูลสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น
ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
สามารถทราบวัสดุคงเหลือและต้นทุนของวัสดุที่นำไปใช้ในแต่ละไซด์งานได้ทันที
35.
สามารถเลือกได้ว่าเมื่อทำการขายหรือเบิกสินค้า ที่ยอดคงเหลือต่ำกว่าจุดสั่งซื้อ
ต้องการให้เตือนหรือไม่
ระบบการจองสินค้าและการจัดจำหน่าย
1.
สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบในแต่ละเอกสารที่แตกต่างกันได้ 3 รูปแบบ ตัวอย่างเช่น
ใบเสนอราคา, บิลเงินสด และเฉพาะใบสั่งขาย, ใบกำกับสินค้า/ใบกำกับภาษี สามารถกำหนดได้ถึง 9 แบบ
2.
สามารถบันทึกขายสินค้าที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)อัตราปกติ
และที่ได้รับยกเว้นภาษี ไว้ในบิลใบเดียวกันได้
3.
สามารถกำหนดได้ว่าต้องการให้บุคลากรท่านใดเข้าไปแก้ไขราคาขายในขณะที่กำลังบันทึกการขายได้บ้าง
4. รองรับการขายที่มีการรับเงินมัดจำล่วงหน้า
และพิมพ์ใบเสร็จ/ใบกำกับภาษี ตอนรับเงินมัดจำ
5. ในอินวอยส์ 1 ใบ สามารถบันทึกรายการสินค้าได้สุงสุด
999 รายการ และพิมพ์ใบต่อเนื่องเรียงตามลำดับรายการให้เอง
และเลือกได้ว่าต้องการป้อนลำดับที่เอง หรือให้โปรแกรมจัดลำดับที่ให้
6.
สามารถเปลี่ยนชื่อสินค้าในใบกำกับสินค้าได้ตามต้องการ
7.
สามารถขายสินค้าด้วยหน่วยนับที่แตกต่างกับหน่วยนับที่เก็บในสต๊อคได้
เพียงแต่มีอัตราส่วนที่สัมพันธ์กัน
8. รองรับการขายสินค้าที่มีของแถม
และในรายงานวิเคราะห์การขาย สามารถแยกยอดออกให้เห็นได้ชัดเจนว่า
ปริมาณสินค้าที่ขาย เป็นเงินจำนวนเท่าไร? และส่วนของแถมเท่าไร
?
9. หลังจากบันทึกใบอินวอยส์
สามารถทราบกำไรขั้นต้นต่ออินวอยส์ได้ทันที
10. สามารถบันทึกส่วนลดแต่ละรายการสินค้า
และส่วนลดจากยอดรวม ซึ่งลดเป็นจำนวนเงิน(บาท), เปอร์เซ็นต์และเป็นเปอร์เซ็นต์หลายชั้น
เช่น 5+3+2 ( ลด 5% เหลือเท่าไหร่ลดอีก 3% เหลือเท่าไหร่ลดอีก 2%)
11.
สามารถกำหนดได้ว่าถ้ามีการขายสินค้าต่ำกว่าจุดสั่งซื้อ ต้องการให้เตือนหรือไม่
12.
สามารถกำหนดได้ว่าถ้ามีการขายสินค้าต่ำกว่าราคาทุน ต้องการให้เตือนหรือไม่
13. สามารถกำหนดคลังสินค้าที่ต้องการขายได้
ทั้งในใบสั่งขาย และใบอินวอยส์
14. มีระบบเตือน เมื่อทำการบันทึกขายเชื่อ
หรือใบสั่งขายเกินวงเงินที่อนุมัติไว้
15. การอนุมัติลูกค้าเกินวงเงิน
สามารถเลือกได้ว่าจะให้อนุมัติตอนออกเอกสาร
หรือจะให้เอกสารไปก่อนแล้วอนุมัติทีหลัง
16. สามารถกำหนดวงเงินขายเชื่อ
และระดับผู้อนุมัติวงเงิน ได้ตามต้องการถึง 5 ระดับ
17. มีระบบควบคุมการจองสินค้า
เพื่อทยอยส่งสินค้าตามคิว, นำเข้าสินค้า/ผลิตสินค้าตามยอดสั่งจอง
(Order)
18. ในใบสั่งขายใบเดียวกัน
สามารถกำหนดวันที่ส่งสินค้าแยกกันคนละวันได้ตามวันเวลาที่ลูกค้าสั่ง
19. สามารถทำการยกเลิกยอดที่ค้างส่งในใบสั่งขายได้ทั้งใบได้
20. สามารถออกใบกำกับสินค้าได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
จนกว่าจะส่งสินค้าครบตามยอดสั่งจอง
21. รองรับธุรกิจการขายบริการ (เกณฑ์เงินสด)
และจะปรับยอดภาษีขายให้ เมื่อบันทึกรับชำระเงิน
22. รองรับธุรกิจฝากขาย
โดยใช้คลังสินค้าเป็นสถานที่ฝากขายสินค้า
23. ในใบอินวอยส์สามารถเพิ่มคำอธิบายแต่ละรายการสินค้าได้จำนวน
10 บรรทัดๆ ละ 50 ตัวอักษร
และเพิ่มคำอธิบายหมายเหตุได้จำนวน 5 บรรทัดๆ ละ 50 ตัวอักษร
24. ในใบเสนอราคาสามารถกำหนดสถานะของลูกค้า
ช่วยให้การติดตามผลการขายมีประสิทธิภาพมากขึ้น
25. สามารถเซ็ตใบเสนอราคาให้เป็นต้นแบบ Price
List เพื่อดึงมาพิมพ์ใบแจ้งหนี้ได้ตลอดเวลา
ทำให้อำนวยความสะดวกสำหรับธุรกิจ เช่าอพาร์ทเม้นท์, ค่าสมาชิกรายเดือน
จะได้ไม่ต้องคีย์รายการเดิมซ้ำทุกเดือน
26. สามารถโอนใบเสนอราคา ไปเป็นใบสั่งขาย
หรือ ใบอินวอยส์ ได้ทันทีโดยไม่ต้องคีย์ข้อมูลใหม่อีกครั้ง
27. สามารถกำหนดเหตุผลในการยกเลิกใบเสนอราคาได้ตามต้องการ
28. สามารถเพิ่มแฟ้มหลักของสินค้า, ลูกค้า, พนักงานขาย
และเขตการขายได้ในขณะบันทึกรายวันขาย
29. เมื่อบันทึกการขาย ระบบบัญชี Express
จะตั้งลูกหนี้, ตัดสต๊อค, บันทึกภาษีขาย, ลงบัญชี และเก็บสถิติการขายให้ทันที
ระบบควบคุมลูกหนี้และรายได้อื่น ๆ
ข้อมูลลูกหนี้จะถูกส่งมาจากระบบขายสินค้า
1. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบในแต่ละเอกสารที่แตกต่างกันได้ถึง
3 รูปแบบ เช่น ใบวางบิล, ใบเสร็จรับเงิน,
ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี, ใบลดหนี้/รับคืนสินค้า
และใบเพิ่มหนี้
2. สามารถบันทึกรายได้
ที่นอกเหนือจากลูกหนี้จากการขายสินค้า
3. สามารถรับชำระหนี้ได้อย่างสะดวกทั้งการรับชำระแบบเต็มบิล
หรือรับชำระบางส่วน
4. การรับชำระหนี้สามารถชำระโดย เงินสด,
เช็ค(กี่ใบก็ได้), บัตรเครดิต(เหมือนเช็ค),
โอนเงินเข้าบัญชี, ดร๊าฟ, หักภาษี ณ ที่จ่าย, ส่วนลด และกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
5. เพื่อลดโอกาสการเกิดหนี้สูญ
ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์สภาพหนี้จากงบอายุหนี้ ทั้งแบบสรุป และแบบละเอียด
และสามารถกำหนดช่วงการวิเคราะห์อายุหนี้ได้เอง
6. มีรายงานใบวางบิลตามวันที่นัดรับเงิน
เพื่อโทรไปเตือนลูกค้าให้เตรียมเช็ค และใช้วางแผนเส้นทางของพนักงานเก็บเงิน
7. ในใบลดหนี้/รับคืนสินค้า
สามารถเลือกได้ว่าจะหักจากใบกำกับสินค้าเดิม, เก็บไว้หักเมื่อรับชำระหนี้
หรือจ่ายเป็นเงินสด
8. ในเอกสารแต่ละใบสามารถเพิ่มคำอธิบายหมายเหตุได้
จำนวน 5 บรรทัดๆ ละ 50 ตัวอักษร
9. มีใบตรวจสอบวงเงินสินเชื่อของลูกค้า
เพื่อเป็นเอกสารประกอบการพิจารณาเรื่องเพิ่มวงเงิน
10. สามารถพิมพ์รายชื่อของลูกค้าลงบนสติกเกอร์และจ่าหน้าซองจดหมายได้
11. สามารถปรับเปลี่ยนรหัสลูกค้า, รหัสพนักงานขาย และรหัสรายได้อื่น ๆ ได้ตลอดเวลา
12. สามารถค้นหาข้อมูลตามรหัสลูกค้า
หรือชื่อบริษัท และมี Look up ในกรณีที่จำรหัสไม่ได้
13. ในรายละเอียดพนักงานขาย
สามารถกำหนดอัตราคอมมิชชั่นและเป้าการขายได้ 24 งวด
เพื่อคำนวณหายอดคอมมิชชั่น
14. ยอดขายของพนักงานขาย
สามารถแยกได้ตามวันที่รับเงิน และวันที่เช็คผ่าน เพื่อนำยอดไปคิดคอมมิชชั่น
15. สำหรับธุรกิจบริการ
สามารถพิมพ์ใบกำกับภาษี ให้กับลูกค้าได้ทันที ที่รับชำระเงิน
ระบบจัดซื้อสินค้าและการรับสินค้า
1. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบในแต่ละเอกสารที่แตกต่างกันได้ถึง
3 รูปแบบ เช่น ใบสั่งซื้อ และใบรับสินค้า
2. รองรับภาษีซื้อแบบที่ขอคืนได้ไม่เต็มจำนวน
โดยระบบบัญชี Express จะเฉลี่ยภาษีซื้อที่ขอคืนได้และภาษีซื้อที่ขอคืนไม่ได้
ให้เองอัตโนมัติ
3. วันที่ที่ได้รับสินค้า
เป็นคนละวันกับวันที่ของใบกำกับภาษีซื้อได้
4. สามารถบันทึกรับสินค้าที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)อัตราปกติ และกลุ่มที่ได้รับยกเว้นในใบรับสินค้าใบเดียวกันได้
5. สามารถบันทึกการซื้อที่มีการจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าได้
6. สามารถบันทึกส่วนลดแต่ละรายการสินค้า
และส่วนลดจากยอดรวม ซึ่งลดเป็นจำนวนเงิน(บาท), เปอร์เซ็นต์และเป็นเปอร์เซ็นต์หลายชั้น
เช่น 5+3+2 ( ลด 5% เหลือเท่าไหร่ลดอีก
3% เหลือเท่าไหร่ลดอีก 2%)
7. เปิดโอกาสให้แก้ไขยอดภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)
ให้ตรงกับใบกำกับภาษีของผู้จำหน่ายได้
8. สามารถซื้อสินค้าด้วยหน่วยนับที่แตกต่างกับหน่วยนับที่เก็บในสต๊อคได้
เพียงแต่มีอัตราส่วนที่สัมพันธ์กัน
9. ในใบสั่งซื้อ สามารถบันทึก ขนส่งโดย,
สถานที่ที่จะให้ส่งสินค้า และคลังที่ทำการสั่งซื้อได้
10. ในใบสั่งซื้อใบเดียวกัน
สามารถกำหนดวันที่รับสินค้าแต่ละตัวแยกกันคนละวันได้ตามต้องการ ประโยชน์ก็คือ
สามารถทยอยส่งสินค้าตาม Order ของลูกค้าได้
11. สามารถบันทึกการรับสินค้า
โดยอ้างอิงถึงใบสั่งซื้อสินค้า หรือไม่ต้องเปิดใบสั่งซื้อก่อนก็ได้
12. ในใบสั่งซื้อ
โปรแกรมจะควบคุมยอดที่สั่งซื้อและค้างรับ และสามารถรับสินค้าตามที่สั่งได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
จนกว่าจะรับสินค้าครบตามยอดสั่งซื้อ
13. มีรายงานสินค้าที่ถึงจุดสั่งซื้อ
(เพื่อเตือนฝ่ายจัดซื้อสั่งของเพื่อให้ทันขาย) แยกตามหมวดสินค้าและผู้จำหน่าย
14. สามารถสั่งซื้อสินค้าตามยอดสั่งจอง(Order)
ช่วยลดภาระการสต๊อคสินค้า โดยดูจากรายงานสินค้าค้างส่ง
15. สามารถสั่งซื้อวัตถุดิบตามยอดสั่งจองสินค้า(Order)
โดยใช้สินค้าชุดช่วยคำนวณหายอดวัตถุดิบที่จะต้องใช้ในการผลิต
16. ในเอกสารแต่ละใบสามารถเพิ่มคำอธิบายรายการสินค้าได้
จำนวน 10 บรรทัดๆ ละ 50 ตัวอักษร
17. ในเอกสารแต่ละใบสามารถเพิ่มคำอธิบายหมายเหตุได้
จำนวน 5 บรรทัดๆ ละ 50 ตัวอักษร
18. สามารถเพิ่มสินค้า และผู้จำหน่าย
ได้ในขณะบันทึกรายการซื้อ
19. สามารถบันทึกรายการซื้อสินค้าได้สูงสุด 999 รายการ/เอกสาร
20. รองรับธุรกิจการซื้อบริการ
(เกณฑ์เงินสด) และจะปรับยอดภาษีซื้อให้ เมื่อบันทึกจ่ายชำระหนี้
21. เมื่อบันทึกรับสินค้าโปรแกรมบัญชี Express
จะตั้งเจ้าหนี้, เพิ่มสต๊อค, บันทึกภาษีซื้อ, ลงบัญชี
และเก็บสถิติการซื้อให้ทันที
ระบบควบคุมเจ้าหนี้และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
ข้อมูลเจ้าหนี้จะถูกส่งมาจากระบบซื้อสินค้า
1. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบในแต่ละเอกสารที่แตกต่างกันได้ถึง
3 รูปแบบ เช่น ใบรับวางบิล, ใบจ่ายเงิน,
ใบลดหนี้/ส่งคืนสินค้า, ใบเพิ่มหนี้
และหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย
2. สามารถบันทึกค่าใช้จ่ายอื่นๆ
นอกเหนือจากเจ้าหนี้จากการซื้อสินค้า
3. สามารถจ่ายชำระหนี้ได้อย่างสะดวกทั้งการจ่ายชำระแบบเต็มบิล
หรือจ่ายชำระบางส่วน
4. การจ่ายชำระหนี้สามารถชำระโดย เงินสด,
เช็ค(กี่ใบก็ได้), บัตรเครดิต(เหมือนเช็ค),
โอนเงิน, ดร๊าฟ, หักภาษี
ณ ที่จ่าย, ส่วนลด และกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
5. สามารถเรียกดูยอดบิลที่ยังค้างจ่ายของเจ้าหนี้แต่ละราย
(ทั้งแบบสรุปและละเอียด) เพื่อใช้ประมาณการรายจ่าย
โดยกำหนดช่วงเวลาที่บิลจะครบกำหนดได้เอง เช่น จะต้องจ่ายภายใน 7 วัน 15 วัน 30 วัน
เป็นเงินเท่าไร
6. มีรายงานใบรับวางบิลตามวันที่นัดจ่ายเช็ค
ทำให้ทราบรายจ่ายล่วงหน้า เพื่อเตรียมทำจ่ายได้ถูกต้อง
7. ในเอกสารแต่ละใบสามารถเพิ่มคำอธิบายหมายเหตุได้
จำนวน 5 บรรทัดๆ ละ 50 ตัวอักษร
8. สามารถพิมพ์รายชื่อของผู้จำหน่ายลงบนสติ๊กเกอร์และจ่าหน้าซองจดหมาย
9. สามารถปรับเปลี่ยนรหัสผู้จำหน่าย
และรหัสค่าใช้จ่าย ได้ตลอดเวลา
10. สามารถค้นหาข้อมูลตามรหัสผู้จำหน่าย
หรือชื่อบริษัท และมี Look up ในกรณีที่จำรหัสไม่ได้
11. สามารถพิมพ์หนังสือรับรองการหักภาษี ณ
ที่จ่าย ทั้งแบบ ภงด.3 และภงด.53
ถูกต้องตามแบบกรมสรรพากรกำหนด
12. ในใบลดหนี้/ส่งคืนสินค้า
สามารถเลือกได้ว่า จะหักจากใบรับสินค้าเดิม หรือเก็บไว้หักเมื่อจ่ายชำระหนี้ หรือ
รับเป็นเงินสด
ระบบควบคุมเช็คและเงินฝากธนาคาร
เช็ครับและเช็คจ่ายจะถูกส่งมาจากการรับชำระหนี้
และจ่ายชำระหนี้
1. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบเช็คที่แตกต่างกันได้
6 ธนาคาร
2. การรับชำระ/จ่ายชำระหนี้ด้วยเช็ค
ระบบบัญชี Express จะนำเช็คไปเก็บไว้ในทะเบียนเช็ค
เพื่อให้ผู้มีหน้าที่ดูแลและตรวจสอบ
3. มีรายงานเช็ครับเรียงตามวันที่เช็ค
เพื่อช่วยเตือนว่ามีเช็คใบไหนที่ถึงกำหนดนำฝาก
4. สามารถพิมพ์ใบนำฝากเช็ค(Pay in
Slip) แทนการเขียนด้วยมือ ทำให้สะดวกและรวดเร็วขึ้น
5. สามารถบันทึกการผ่านเช็คทั้งชุดที่นำฝาก
หรือผ่านเช็คทีละใบก็ได้
6. สามารถเก็บประวัติเช็คคืน (เช็คเด้ง)
เพื่อเก็บไว้พิจารณาการให้เครดิต
7. มีรายงานเช็คจ่ายเรียงตามเลขที่เช็ค
สำหรับตรวจสอบกับสมุดเช็คแต่ละใบที่เซ็นต์จ่ายไป
8. มีรายงานเช็คจ่ายเรียงตามวันที่เช็ค
เพื่อเตือนให้ฝ่ายการเงินทราบว่าจะมีเช็คใบไหนบ้างและจำนวนเงินเท่าไหร่ ? ที่จะตัดจากบัญชี
จะได้เตรียมโอนเงินจากบัญชีออมทรัพย์เข้าบัญชีกระแสรายวันได้ทันเวลา
9. สามารถกำหนดให้ระบบทำการผ่านเช็คจ่ายให้เองอัตโนมัติ
(ไม่ต้องเสียเวลาผ่านเอง)
10. สามารถบันทึกรายการที่เกี่ยวข้องกับบัญชีเงินฝากธนาคาร
เช่น ฝาก/ถอนเงินสด, โอนเงินระหว่างธนาคาร, จ่ายค่าธรรมเนียม ฯ และพิมพ์รายงานเพื่อนำมากระทบยอดกับ Bank
Statement ได้ (ทำ Bank Reconcile)
11. สามารถถอนเงินสดด้วยเช็คของบริษัท
และบันทึกการขายลดเช็คได้
ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat) และภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
ข้อมูล จะถูกส่งมาจากระบบการซื้อสินค้า, ค่าใช้จ่ายอื่นๆ, ลดหนี้/ส่งคืนสินค้า, ขายสินค้า, รายได้อื่นๆ, ลดหนี้/รับคืนสินค้า
และระบบบัญชี
1. สามารถบันทึกการซื้อ/ขายได้ทั้งแบบ
ราคารวมภาษี (Inclusive) และราคาแยกภาษี (Exclusive) รวมทั้งรายการสินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษี
2. สามารถพิมพ์รายงานภาษีซื้อ, ภาษีขาย และมูลค่าฐานภาษี ที่มีข้อมูลครบถ้วนตามที่กรมสรรพากรกำหนด
และนำตัวเลขมากรอกในแบบ ภ.พ.30 พร้อมนำส่งทุกวันที่ 15 ได้ทันที
3. รองรับธุรกิจที่ขอคืนภาษีซื้อได้ไม่เต็มจำนวน
โปรแกรมจะพิมพ์รายงานภาษีซื้อแยกเป็น 2 ยอด คือ
ยอดที่ขอคืนได้ และยอดที่ขอคืนไม่ได้
4. รองรับกรณีที่มีใบกำกับภาษีมาถึงล่าช้าแต่ไม่เกิน
6 เดือน และกรณีเกิน 6 เดือน
ระบบจะแยกรายงานภาษีซื้อออกเป็น 2 รายงาน ได้แก่
รายงานภาษีซื้อ (ยื่นปกติ) และรายงานภาษีซื้อ (ยื่นเพิ่มเติม)
5. รายงานภาษีซื้อ
สามารถเลือกพิมพ์ออกเครื่องพิมพ์และจอภาพได้ทั้ง 2 แบบ
ได้แก่
- เรียงตามวันที่ ที่ได้รับใบกำกับภาษี
ตามประกาศกรมสรรพากรฉบับที่ 89 มีผลตั้งแต่ 29 เม.ย. 2542
- เรียงตามวันที่ใบกำกับภาษี
ตามประกาศฉบับเก่า (จะค้นหาใบกำกับภาษีในรายงานได้ง่ายกว่า)
6. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบรายงานภาษีซื้อที่แตกต่างกันได้
6 แบบ และมีต้นฉบับที่ช่วยให้แก้ไขได้ 7 แบบ
7. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบรายงานภาษีขายที่แตกต่างกันได้
6 แบบ และมีต้นฉบับที่ช่วยให้แก้ไขได้ 7 แบบ
8. สามารถเลือกวิธีการบันทึกบัญชีภาษีมูลค่าเพิ่มได้
2 แบบ คือ แบบเกณฑ์สิทธิ และแบบเกณฑ์เงินสด
9. สามารถพิมพ์รายงานภาษีซื้อ, ภาซื้อขาย และแบบยื่น ภงด. แยกตามแผนกได้
10. สามารถพิมพ์แบบยื่น ภงด.3, ภงด.53 ซึ่งตรงตามแบบสรรพากรกำหนด
และแนบนำส่งทุกวันที่ 7 ของเดือนได้ทันที
11. สามารถกำหนดประเภทเงินได้
และอัตราที่หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ล่วงหน้า ทำให้เวลาที่ทำใบหัก จะได้ไม่ผิดพลาด
ระบบวิเคราะห์การขาย
ทำ การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการขายสินค้า
และจัดทำเป็นรายงานทั้งแบบสรุปและแบบละเอียด ข้อมูลเปรียบเทียบ
เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ประกอบด้วยรายงานดังต่อไปนี้
1. ประวัติการขายแยกตามลูกค้า,ตามสินค้า และตามพนักงานขาย
2. ยอดขายแยกตามเขตการขาย
แจกแจงตามพนักงานขาย, ลูกค้า ทั้งแบบละเอียดและสรุป
3. สรุปยอดขายประจำงวด
4. สรุปยอดขายเชื่อแยกตามลูกค้า
(เปรียบเทียบ 12 งวด)
5. รายงานการจัดลำดับยอดขาย
แยกตามมูลค่าสินค้า, ตามปริมาณ, ตามมูลค่าของแต่ละสินค้า+ลูกค้า,
ตามปริมาณของแต่ละสินค้า+ลูกค้า, ตามมูลค่าของแต่ละสินค้า+พนักงานขาย,
ตามปริมาณของแต่ละสินค้า+พนักงานขาย, ตามลูกค้า
และตามพนักงานขาย
6. สรุปยอดขาย(ทราบกำไรขั้นต้นทันที)
แยกตามหมวดสินค้า, ตามคลัง, ตามลูกค้า,
ตามพนักงานขาย(เทียบกับเป้าการขาย), ตามพนักงานขาย+ลูกค้า,
ตามเขตการขาย+พนักงานขาย และตามเขตการขาย+ลูกค้า
ระบบวิเคราะห์การซื้อ
ทำ การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อสินค้า
และจัดทำเป็นรายงานทั้งแบบสรุปและแบบละเอียด ข้อมูลเปรียบเทียบ
เพื่อใช้ในการวางแผนการดำเนินงานของบริษัทฯในอนาคต ประกอบด้วยรายงานดังต่อไปนี้
1. ประวัติการซื้อ แยกตามผู้จำหน่าย
และสินค้า
2. สรุปยอดซื้อประจำงวด
3. สรุปยอดซื้อเชื่อ แยกตามผู้จำหน่าย
(เปรียบเทียบ 12 งวด)
4. สรุปยอดซื้อ แยกตามหมวดสินค้า, ตามคลัง และตามผู้จำหน่าย
ระบบรักษาความปลอดภัย
1. ผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดสิทธิการใช้ข้อมูลของผู้ใช้งานแต่ละคนหรือแต่ละกลุ่ม
ได้ตามต้องการ ทำให้ป้องกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปดูข้อมูลที่เป็นความลับ
2. ผู้ใช้แต่ละคน สามารถตั้งรหัสผ่าน (PassWord)
ของตนเองได้
3. สามารถแบ่งระดับชั้นของผู้ใช้งานได้ว่าเป็น
พนักงาน, ผู้จัดการแผนก หรือ ผู้ดูแลระบบ
4. สามารถกำหนดสิทธิการใช้ข้อมูลได้ทุกเมนูย่อย
แม้แต่เมนูย่อย/รายงาน/งบการเงิน ที่สร้างเพิ่มเติมขึ้นเอง
5. การเพิ่ม แก้ไข ยกเลิก ลบ สามารถกำหนดได้ว่า
ถ้าผู้ใช้เข้าไปทำงานแล้วต้องการให้เก็บประวัติไว้หรือไม่
6. การพิมพ์เอกสาร สามารถกำหนดได้ว่า
ต้องการให้ใครพิมพ์ดูได้เฉพาะหน้าจอ หรืออนุญาตให้ใครพิมพ์ออกเครื่องพิมพ์ได้
7. สามารถกำหนดการตรวจสอบแบบเข้มงวด
ทำให้ง่ายสำหรับผู้ดูแลระบบ โดยไม่จำเป็นจะต้องเข้าไปกำหนดสิทธิการใช้งานเพิ่มอีก
โปรแกรมบัญชี Express จะจัดการบันทึกเหตุการณ์ของผู้ใช้งานรายนั้นเก็บไว้ให้ทุกครั้ง
8. สามารถกำหนดการยกเลิกการใช้รหัสผู้ใช้บางรหัสเป็นการชั่วคราว
อาจเนื่องมาจาก พนักงานผู้นั้นลาออก หรือลาพักร้อนเป็นเวลานาน ๆ
แต่ยังไม่ต้องการลบรหัสผู้ใช้รหัสนี้ทิ้ง
9. มีแฟ้มบันทึกเหตุการณ์
การทำงานของผู้ใช้ทุกคน ที่เข้ามาใช้งานในระบบ
สำหรับผู้ดูแลระบบใช้ในการตรวจสอบการทำงานของผู้ใช้แต่ละคน
10. สามารถกำหนดสิทธิให้กับผู้ใช้แต่ละราย
ว่าใครมีอำนาจในการอนุมัติ (รับรอง) เอกสารได้บ้าง
11. เอกสารสำคัญที่ต้องการให้ผู้มีอำนาจรับรองก่อน
สามารถกำหนดเงื่อนไขการรับรองเอกสารได้ 3 วิธี คือ
1. พิมพ์ก่อนรับรองทีหลัง
2. รับรองก่อนแล้วถึงจะพิมพ์ได้
3. อะไรก่อนก็ได้